วิทยาศาสตร์(science) หมายถึง ความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติ และกระบวนการค้นคว้าหาความรู้ที่มีขั้นตอนมีระเบียบแบบแผน
ความหมายของคำว่า วิทยาศาสตร์ จะมี 2 ส่วน
1. วิทยาศาสตร์ หมายถึง ความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่มนุษย์พยายามหาคำตอบเกี่ยวกับคำถามจากสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร
สิ่งต่างๆ มีความสัมพันธ์กันหรือไม่ อย่างไร
สิ่งต่างๆ ที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันจะเป็นอย่างไรในอนาคต
สิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่ข้อสรุปเป็นข้อเท็จจริง ความคิดรวบยอด ทฤษฎี หลักการ และกฎต่างๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์ได้
1. วิทยาศาสตร์ หมายถึง ความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่มนุษย์พยายามหาคำตอบเกี่ยวกับคำถามจากสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร
สิ่งต่างๆ มีความสัมพันธ์กันหรือไม่ อย่างไร
สิ่งต่างๆ ที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันจะเป็นอย่างไรในอนาคต
สิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่ข้อสรุปเป็นข้อเท็จจริง ความคิดรวบยอด ทฤษฎี หลักการ และกฎต่างๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์ได้
2. วิทยาศาสตร์ หมายถึง กระบวนการค้นหาความรู้อย่างเป็นระบบและมีขั้นตอนที่สามารถตรวจสอบได้ จึงทำให้ได้ความรู้ที่มีขั้นตอน ระเบียบกฎเกณฑ์และสามารถตรวจสอบได้
องค์ประกอบของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์
1. กระบวนการ (process) หมายถึง การกระทำของคนซึ่งอาศัยวิธีการทางวิทยาศาสตร์คือ การสังเกต การกำหนดปัญหา และการตรวจสอบสมมุติฐาน
2. ความรู้ (knowledge) ได้แก้ผลจากการกระทำของคน ซึ่งประกอบด้วย ข้อมูล ข้อเท็จจริง ทฤษฎี และกฎ
องค์ประกอบของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์
1. กระบวนการ (process) หมายถึง การกระทำของคนซึ่งอาศัยวิธีการทางวิทยาศาสตร์คือ การสังเกต การกำหนดปัญหา และการตรวจสอบสมมุติฐาน
2. ความรู้ (knowledge) ได้แก้ผลจากการกระทำของคน ซึ่งประกอบด้วย ข้อมูล ข้อเท็จจริง ทฤษฎี และกฎ
กระบวนการหาความรู้ของนักวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ
1. "ระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์ หรือวิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific method)" หมายถึงวิธีการทำงานอย่างมีระบบ ซึ่งเริ่มจาก
1.1 การสังเกต (ทำให้เกิดความสงสัยและเป็นปัญหาเกิดขึ้น)
1.2 กำหนดปัญหาให้ชัดเจน
1. "ระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์ หรือวิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific method)" หมายถึงวิธีการทำงานอย่างมีระบบ ซึ่งเริ่มจาก
1.1 การสังเกต (ทำให้เกิดความสงสัยและเป็นปัญหาเกิดขึ้น)
1.2 กำหนดปัญหาให้ชัดเจน
1.3 ตั้งสมมุติฐานเป็นการคาดคะเนคำตอบของปัญหาอย่างมีเหตุผล
1.4 ออกแบบการทดลองและทำการทดลองตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
1.5 สรุปผลการทดลองหลังจากการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของผลการทดลองที่ได้อย่างมีเหตุผล
จะเห็นว่าวิธีการทางวิทยาศาสตร์มี 5 ขั้นตอนนะจ้ะ
สังเกต-- ระบุปัญหา---ตั้งสมมุติฐาน---ทดลอง--สรุปผล—
1.4 ออกแบบการทดลองและทำการทดลองตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
1.5 สรุปผลการทดลองหลังจากการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของผลการทดลองที่ได้อย่างมีเหตุผล
จะเห็นว่าวิธีการทางวิทยาศาสตร์มี 5 ขั้นตอนนะจ้ะ
สังเกต-- ระบุปัญหา---ตั้งสมมุติฐาน---ทดลอง--สรุปผล—
2. "ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์" หมายถึงความชำนาญและประสบการณ์ในการใช้ความคิดเพื่อแก้ปัญหา ทักษะที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาและสรุปเป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์
ประกอบด้วยทักษะพื้นฐานที่สำคัญดังนี้
1.ทักษะการสังเกต
2.ทักษะการวัด
3.ทักษะการคำนวณ
4.ทักษะการจำแนกและจัดหมวดหมู่
5.ทักษะการหาความสัมพันธ์
6.ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
7.ทักษะการจัดทำและสื่อความหมายข้อมูล
8.ทักษะการทำนาย
9.ทักษะการตั้งสมมุติฐาน(ต้องตั้งเก่งด้วย)
10.ทักษะการกำหนดและควบคุมตัวแปร (เพื่อให้ผลทดลองออกมาน่าเชื่อถือ)
11.ทักษะการกำหนดเชิงปฏิบัติการ (คือการกำหนดขั้นตอนวิธีการทดลอง)
12.ทักษะการทดลอง (ใช้อุปกรณ์เป็นเปล่า..แถวนั้น)
13.ทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป(ต้องดูผลการทดลองแล้วแปลความหมายเป็นด้วย ไม่ใช่เอาไปใบ้หวย อิอิ)
ประกอบด้วยทักษะพื้นฐานที่สำคัญดังนี้
1.ทักษะการสังเกต
2.ทักษะการวัด
3.ทักษะการคำนวณ
4.ทักษะการจำแนกและจัดหมวดหมู่
5.ทักษะการหาความสัมพันธ์
6.ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
7.ทักษะการจัดทำและสื่อความหมายข้อมูล
8.ทักษะการทำนาย
9.ทักษะการตั้งสมมุติฐาน(ต้องตั้งเก่งด้วย)
10.ทักษะการกำหนดและควบคุมตัวแปร (เพื่อให้ผลทดลองออกมาน่าเชื่อถือ)
11.ทักษะการกำหนดเชิงปฏิบัติการ (คือการกำหนดขั้นตอนวิธีการทดลอง)
12.ทักษะการทดลอง (ใช้อุปกรณ์เป็นเปล่า..แถวนั้น)
13.ทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป(ต้องดูผลการทดลองแล้วแปลความหมายเป็นด้วย ไม่ใช่เอาไปใบ้หวย อิอิ)
3. "เจตคติทางวิทยาศาสตร์" หมายถึงคุณลักษณะของบุคคลที่มีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมของตนออกมา ซึ่งจะมีผลต่อความสำเร็จของงานทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมากเลย พูดง่ายๆ คือนิสัยส่วนตัวของคนนั่น ซึ่งลักษณะที่สำคัญได้แก่
- การเป็นคนช่างสังเกต(สำคัญมากข้อนี้หมายถึงการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมด ในการพิจารณาสิ่งต่างๆ อย่างละเอียด แต่ต้องระวังความปลอดภัยด้วย)
เป็นคนช่างสงสัย
เป็นคนมีเหตุผล
- เป็นคนมีความพยายามและอดทน (ลองไปอ่านประวัตินักวิทยาศาสตร์ดูในห้องความรู้จะเห็นว่าพวกเขาต้องพยายามกันมากกว่าจะค้นพบ) เป็นคนที่มีความพยายามและริเริ่ม เป็นคนทำงานอย่างมีระเบียบระบบเป็นขั้นตอนตามระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์
- การเป็นคนช่างสังเกต(สำคัญมากข้อนี้หมายถึงการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมด ในการพิจารณาสิ่งต่างๆ อย่างละเอียด แต่ต้องระวังความปลอดภัยด้วย)
เป็นคนช่างสงสัย
เป็นคนมีเหตุผล
- เป็นคนมีความพยายามและอดทน (ลองไปอ่านประวัตินักวิทยาศาสตร์ดูในห้องความรู้จะเห็นว่าพวกเขาต้องพยายามกันมากกว่าจะค้นพบ) เป็นคนที่มีความพยายามและริเริ่ม เป็นคนทำงานอย่างมีระเบียบระบบเป็นขั้นตอนตามระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์
ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มีประโยชน์จาก เว็บไซต์: กิตติยาดอทคอม
เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต
เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต
ผู้มีบทความทางด้านวิทยาศาสตร์น่ารู้
สามารถส่งผลงานของท่านมาได้ที่ arunee@teeneemedia.com
สามารถส่งผลงานของท่านมาได้ที่ arunee@teeneemedia.com